"แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง"

สรุปตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

                จากการสรุปค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องดื่มน้ำ ใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆเช่น ประกอบอาหาร ซักเสื้อผ้า                ล้างจาน ชำระร่างกาย  ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า กิจกรรมในทุกๆวันต้องใช้น้ำ ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีไฟฟ้าเราก็จะประกอบกิจกรรมต่างๆไม่ได้ เพราะ เครื่องอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ก็จะต้องอาศัยไฟฟ้าเป็นพลังงานหลัก จากการทำแผนภูมิสรุปค่าใช้จ่ายน้ำ ไฟฟ้า ทำให้เห็นว่าค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ถือว่าไม่สูงมาก และจะอยู่ในอัตราเท่าๆกันทุกเดือน เนื่องจากทางบ้านจะใช้น้ำกันอย่างประหยัด ไม่เปิดให้ไหลทิ้ง เพราะทุกคนจะทราบกันดีว่า น้ำเป็นสิ่งที่มีค่า กว่าจะได้น้ำในแต่ละลิตรเพื่อมาใช้กิน ดื่ม จะต้องผ่านกระบวนการมากมาย รวมถึงการถางป่าเพื่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ ที่บ้านจึงมาการใช้น้ำหมุนเวียน โดยการนำน้ำที่ซักผ้า มารดต้นไม้ และ ล้างพื้นระเบียงบ้าน ตลอดจนน้ำดื่มที่ดื่มไม่หมดจะเก็บใส่ขวดเพื่อนำมาดื่มต่อ ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน คุณแม่จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การซักผ้าน้อยชิ้น จะใช้มือซัก ส่วนผ้านวมผืนใหญ่ๆจะใช้เครื่องซักผ้า เพื่อเป็นการถนอมเนื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น จึงช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ ในตอนกลางวัน จะพยายามเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงอาทิตย์ให้ฆ่าเชื้อโรคและรับความสว่าง ค่าไฟจึงไม่สูงเหมือนบ้านอื่นๆเช่นกัน ส่วนค่าโทรศัพท์ ก็จะมีการจำกัดวงเงินในการใช้งาน และส่วนใหญ่หากมีธุระก็จะใช้การส่งอีเมล์ หรือ ไลน์ แทน เพราะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการโทรได้ อีกทั้งการไลน์หากัน 1 ครั้ง สามารถส่งเข้ากลุ่มได้ครั้งละ หลายๆคน เป็นการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง

                การอุปโภค บริโภคต่างๆ ในปัจจุบันนั้นจะต้องคิดก่อนใช้ให้มากๆ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เกินตัว จะช่วยประหยัดสตางค์ในกระเป๋าได้มาก ที่สำคัญยังเป็นส่วนหนึ่งในการใช้รักษาโลกไว้ไม่ให้โลกป่วยหนักไปกว่านี้ ดิฉันและครอบครัวจึงช่วยกันประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ใช้ทิ้งขว้าง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายไม่มากจนเกินไปและรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการรักษ์โลก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น