สารบัญ

สุขศึกษา


การงานอาชีพ และเทคโนโลยี





5 WAYS TO SAVE THE ENVIROMENT


1. Recycled the Glass
Reduce related air pollution by 20% and related water pollution by 50%. If it isn’t recycled it can take a million years to decompose.

2. Recycle Newspaper
There are 63 million newspapers printed each day in the USA. Of these, 44 million, or about 69%, of them will be thrown them, recycling just the Sunday papers would save more than half a million trees every week.

3. Save the water and Turn off the light
You can heal the world by turn off the light when you are not using.

4. Ecotourism
Ecotourism means like responsible travel to nature area that conserve the environment, for example: you must not picking the flowers, throw the rock to the animals and the most important is not destroy their habitat. Or easily means environment friendly.

5. Plant a Tree
            It’s good for the air, the land and save on cooling, and they can also improve your property.


"การใช้ชีวิตพอเพียงในภาวะโลกร้อน2"


            ปัจจุบันโลกของเราได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆถูกปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษณ์  มีผู้คนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับค่านิยมเหล่านี้มากพอสมควร  คำนึงถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมแต่นี่เป็นเพียงแค่ผลกระทบส่วนย่อยเท่านั้น เพราะสิ่งที่มนุษย์ในยุคปัจจุบันกำลังกระทำนั้นทำให้เกิดผลเสียต่อโลกคือทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้น

            สิ่งที่มนุษย์ในยุคปัจจุบันกำลังกระทำอยู่นั้นล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดผลกระทบต่อโลกหนึ่งในนั้นคือการเกิดภาวะโลกร้อนซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดมาจากการตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ที่ต้องการนำไม้ไปทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น เฟอร์นิเจอร์ของประดับตกแต่งต่างๆเพื่อนำไปสร้างรายได้ทำให้จำนวนป่าไม้ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันกับสภาพอากาศเมื่อทรัพยากรป่าไม้ลดหายสภาพอากาศก็เริ่มมีอุณหภูมิสูงและร้อนขึ้น  สำหรับสาเหตุสำคัญของปัญหานี้ก็คือมนุษย์  มนุษย์ทั้งตัดต้นไม้ที่ช่วยดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้  เผาผลาญเชื้อเพลิงน้ำมัน  ทำอุตสาหกรรมโดยมิได้คำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น  จึงเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา  นอกจากการแก้ปัญหาโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว  เราควรจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการอื่นๆด้วย เช่นการประหยัดพลังงาน  การปลูกต้นไม้  การลดปริมาณการปล่อยก๊าซ


            เราควรค่อยๆปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตอย่างบริโภคนิยมโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน  ลดความอยากมี อยากได้ของตนให้น้อยลง  หากเรามีความอยากเราก็จะดิ้นรนที่จะตอบสนองความต้องการของตนและผลที่ตามมาก็อาจเกิดผลเสียต่อตนเองได้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะรู้จักคำว่า พอ จะใช้จ่ายหรือทำอะไรก็ให้คำนึงถึงความพอประมาณ  ความพอเพียงเพื่อนที่เราจะได้ดำรงชีวิตอยู่บนคำว่า พอดี  

"การใช้ชีวิตพอเพียงในภาวะโลกร้อน1"

  
            ในปัจจุบันโลกของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จนส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมายและปัญหาหลักๆที่เรายังแก้ไม่ได้แต่ก็หนีไม่พ้นอยู่ดีนั่นคือ ภาวะโลกร้อน ฉะนั้นเราจึงต้องมีการปรับตัวโดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อความอยู่รอดในสภาวะแบบนี้ แต่ปัญหาก็ตามมาอีกว่าแล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างไรหรือเราต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นเมื่อเกิดคำถามแบบนี้เราควรกลับไปมองย้อนไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นว่าต้นเหตุของปัญหาเกิดได้อย่างไร
            
            อย่างที่เราทราบกันดีว่าจริงๆแล้วตัวการสำคัญซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน คงไม่พ้นมนุษย์เราเอง เนื่องจากพฤติกรรม การกระทำต่างๆที่อาจเกิดขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของตนเองจนละเลยการดูแล อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำลายธรรมชาติอย่างการตัดไม้ทำลายป่า การปล่อยน้ำเน่าเสียหรือสารเคมีลงในแม่น้ำ หรือการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความก้าวหน้าขึ้น จนเกิดข้าวของเครื่องใช้ที่สร้างมลพิษให้แก่โลก เช่น พาหนะยานยนต์ต่างๆ ทั้ง รถยนต์และจักรยานยนต์ อีกบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก โฟม ทุกสิ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยของการเกิดภาวะโลกร้อน เพราะควันจากท่อไอเสีย ควันจากการเผาขยะจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ขึ้นไปรวมตัวกันอยู่บนชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นปรากฏการณ์เรือนกระจกบวกกับต้นไม้ ป่าไม้ที่โดนตัดไปทำให้มลพิษต่างๆไม่ถูกดูดซึมไปเปลี่ยนเป็นออกซิเจน ถ้าเราลองคิดต่อไปถึงอนาคต หากหลายคนยังไม่รู้จักใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและรักษาธรรมชาติ สภาพโลกของเราในภายภาคหน้าจะเป็นเช่นไร หากเรายังมีพฤติกรรมแบบนี้ต่อโลกแล้วโลกจะให้อะไรต่อเรา
            
             ทีนี้การที่เราจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตจากเดิมไปเลยภายในวันเดียวคงเป็นไปไม่ได้ เราต้องใช้เวลาค่อยๆเป็นค่อยๆไป และเรียนรู้ไปทีละนิด ส่วนสิ่งที่เราควรเปลี่ยนก็คือเรื่องการประหยัด ดังนั้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทำให้เรารู้จักพอประมาณคือไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น และไม่ใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้เรารู้จักมีเหตุผลคือ รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล และคิดอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังสอนให้เรามีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีคือ เตรียมพร้อมรับมือต่อเหตุการณ์ต่างๆที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคต

            
            ถ้าทุกๆคนคิดที่จะเปลี่ยนการปฏิบัติตัว ก็เหมือนโลกเราได้รับการเปลี่ยนแปลงและเกิดผลไปในทางที่ดีขึ้น แล้ววันนี้เราจะเลือกทางไหนให้กับอนาคตของพวกเรา

"รายชื่อสมาชิก"


 สุขศึกษา
  1. พรวิสาข์   ภาคสุวรรณ         #1
  2. ธัญณพร   ขอพรประเสริฐ    #24
  3. นัทธชญา พัฒนาถาวร         #31
  4. พิมพิศา    นาคธรนินท์        #40
  5. อริสรา      วีระพจนานันท์    #43
  6. ติณณา     สุเมธโชติเมธา   #44

การงานอาชีพ และเทคโนโลยี
  1.  กัญชพร รุ่งธีรวัฒนานนท์          #4
  2. พรรษมน จุลกะรัตน์                   #5
  3.  กัณฐิกา เหล่าอารยะ                 #13
  4.  ศุภัสรา สืขเรศ                          #18
  5.  ภัท วสุรัตน์                               #21
  6.  ทิพย์ธิดา โกสุมขจรเกรียติ       #27
  7.  พิมพ์ลภัส สุวรรณเนตร            #28  
  
 ศิลปะ
  1. รุ่งทิวา                                #6
  2. นภัส                                   #14
  3. พิริยา                                  #16
  4. สิรัชชา                               #17
  5. ธนัมพร                               #19
  6. ปูชิตา                                 #22
  7. จินจุฑา                              #23


คณิตศาสตร์
  1. ปทิตตา               #2
  2. ณัฐณิชา             #12
  3. มนัสวี                 #33
  4. ลักษิกา              #34
  5. ณัฐนรี                #35
  6. นภัส                   #36
  7. พชรพรรณ          #37

ภาษาไทย

  1. ศวิศา            #7
  2. เดริศรา         #25
  3. ดุสิตา           #30
  4. พรปวีณ์        #39
  5. รินทร์ลภัส    #41
  6. บูรยา            #42
  7. อสิกานต์      #45


ภาษาอังกฤษ

  1. จิรภรณ์       #8
  2. มายูมิ         #9
  3. กรกวี         #10
  4. พัชรพร      #20
  5. พริมา        #26
  6. ชญานิศ    #32
  7. หนึ่งธิดา   #46



"แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง"

สรุปตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

                จากการสรุปค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องดื่มน้ำ ใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆเช่น ประกอบอาหาร ซักเสื้อผ้า                ล้างจาน ชำระร่างกาย  ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า กิจกรรมในทุกๆวันต้องใช้น้ำ ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีไฟฟ้าเราก็จะประกอบกิจกรรมต่างๆไม่ได้ เพราะ เครื่องอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ก็จะต้องอาศัยไฟฟ้าเป็นพลังงานหลัก จากการทำแผนภูมิสรุปค่าใช้จ่ายน้ำ ไฟฟ้า ทำให้เห็นว่าค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ถือว่าไม่สูงมาก และจะอยู่ในอัตราเท่าๆกันทุกเดือน เนื่องจากทางบ้านจะใช้น้ำกันอย่างประหยัด ไม่เปิดให้ไหลทิ้ง เพราะทุกคนจะทราบกันดีว่า น้ำเป็นสิ่งที่มีค่า กว่าจะได้น้ำในแต่ละลิตรเพื่อมาใช้กิน ดื่ม จะต้องผ่านกระบวนการมากมาย รวมถึงการถางป่าเพื่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ ที่บ้านจึงมาการใช้น้ำหมุนเวียน โดยการนำน้ำที่ซักผ้า มารดต้นไม้ และ ล้างพื้นระเบียงบ้าน ตลอดจนน้ำดื่มที่ดื่มไม่หมดจะเก็บใส่ขวดเพื่อนำมาดื่มต่อ ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน คุณแม่จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การซักผ้าน้อยชิ้น จะใช้มือซัก ส่วนผ้านวมผืนใหญ่ๆจะใช้เครื่องซักผ้า เพื่อเป็นการถนอมเนื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น จึงช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ ในตอนกลางวัน จะพยายามเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงอาทิตย์ให้ฆ่าเชื้อโรคและรับความสว่าง ค่าไฟจึงไม่สูงเหมือนบ้านอื่นๆเช่นกัน ส่วนค่าโทรศัพท์ ก็จะมีการจำกัดวงเงินในการใช้งาน และส่วนใหญ่หากมีธุระก็จะใช้การส่งอีเมล์ หรือ ไลน์ แทน เพราะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการโทรได้ อีกทั้งการไลน์หากัน 1 ครั้ง สามารถส่งเข้ากลุ่มได้ครั้งละ หลายๆคน เป็นการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง

                การอุปโภค บริโภคต่างๆ ในปัจจุบันนั้นจะต้องคิดก่อนใช้ให้มากๆ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เกินตัว จะช่วยประหยัดสตางค์ในกระเป๋าได้มาก ที่สำคัญยังเป็นส่วนหนึ่งในการใช้รักษาโลกไว้ไม่ให้โลกป่วยหนักไปกว่านี้ ดิฉันและครอบครัวจึงช่วยกันประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ใช้ทิ้งขว้าง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายไม่มากจนเกินไปและรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการรักษ์โลก



"กราฟค่าโทรศัพท์"

การอ่านและแปลความหมายของกราฟระบบสมการเชิงเส้น
เดือน
เดือน ก.พ.
เดือน มี.ค.
เดือน เม.ย.
เดือน พ.ค.
เดือน มิ.ย.
ค่าโทรศัพท์ (บาท)
799
840
799
843
799

ตารางข้อมูลค่าโทรศัพท์ เดือนกุมภาพันธ์มิถุนายน 2557
ให้         
X แทน เดือน
               Y แทน ค่าโทรศัพท์ (บาท)

สรุป
จากข้อมูลค่าโทรศัพท์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์มิถุนายน  2557 พบว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก เพราะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยโปรโมชั่น ดังนั้นหากควบคุมไม่ให้มีการใช้เกินโปรโมชั่นก็จะไม่ใช้เกิน แต่ในเดือนมีนาคมและเดือนพฤษภาคมมีการใช้เกินโปรโมชั่นเล็กน้อย คือ 41 และ 44 บาท ตามลำดับ แต่ก็มีความพยายามลดการใช้ให้กลับมาเท่าเดิม

ดิฉันคาดว่าในเดือนต่อๆไปจะควบคุมไม่ให้เกินโปรโมชั่นและถ้าเป็นไปได้ ดิฉันจะพยายามลดค่าใช้โทรศัพท์ให้น้อยลงด้วยการลดโปรโมชั่นลง เพื่อเป็นการประหยัดรายจ่ายเพราะส่วนมากจะไม่ค่อยใช้โทรมากนัก จะเน้นการใช้อินเทอร์เนตมากกว่า โดยจะนำราคาของหลายๆค่ายมาเปรียบเทียบกันดูเพื่อให้ได้ราคาที่ยุติธรรม คุ้มค่ามากที่สุด

"กราฟค่าน้ำ"

การอ่านและแปลความหมายของกราฟระบบสมการเชิงเส้น

เดือน
เดือน ก.พ.
เดือน มี.ค.
เดือน เม.ย.
เดือน พ.ค.
เดือน มิ.ย.
ค่าใช้ไฟฟ้า (บาท)
1992
2157
3595
1199
5387

ตารางข้อมูลค่าน้ำประปาเดือนกุมภาพันธ์
มิถุนายน 2557
ให้         
X แทน เดือน
               Y แทน ค่าน้ำประปา (บาท)

สรุป
จากข้อมูลค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์มิถุนายน  2557 พบว่าเดือนมิถุนายน มีค่าไฟฟ้าสูงที่สุดคือ 5387 บาท และ ที่ค่าไฟฟ้าต่ำที่สุดคือ 1199 บาท เพราะช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเปิดเทอมจึงทำให้ดิฉันไม่ได้อยู่ที่พักบ่อยเพราะ ดิฉันต้องไปโรงเรียน และอยู่ประจำ ทำให้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านจึงมีค่าไฟฟ้าลดลง ส่วนในเดือนมิถุนายนมีค่าไฟฟ้าสูงที่สุดเพราะเป็น ช่วงที่ต้องทำงานและโรงเรียนเปิดเป็นส่วนมาก จึงทำให้ต้องมีการใช้งานที่มากขึ้นทั้งในเรื่องของการศึกษา และการใช้งานส่วนตัว
ดิฉันคาดว่าในเดือนถัดไปค่าไฟฟ้าน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราการใช้ไฟฟ้าน่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงที่สภาพอากาศร้อน และเริ่มมีฝนตก


"กราฟค่าน้ำ"


การอ่านและแปลความหมายของกราฟระบบสมการเชิงเส้น

เดือน
พ.ย.-56
ธ.ค.-56
ม.ค.-57
ก.พ.-57
มี.ค.-57
ค่าน้ำประปา (บาท)
120
120
100
40
100


ตารางข้อมูลค่าน้ำประปาเดือนพฤศจิกายน
2556 – มีนาคม 2557
ให้         
X แทน เดือน
               Y แทน ค่าน้ำประปา (บาท)



สรุป
จากข้อมูลค่าน้ำประปาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 – มีนาคม 2557 พบว่าเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2556 มีค่าน้ำประปาสูงที่สุดคือ 120 บาท และค่าน้ำประปาลดลงเรื่อยๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 25557 ที่ค่าน้ำประปาต่ำที่สุดคือ 40 บาท เพราะช่วงปลายธันวาคมถึงต้นมกราคมดิฉันไม่ได้อยู่ที่พักทำให้มีค่าน้ำประปาลดลง ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ค่าน้ำประปาต่ำที่สุดเพราะไม่มีผู้อยู่อาศัยในที่พักทำให้อัตราการใช้น้ำประปาลดลงด้วยเช่นกัน ส่วนในเดือนมีนาคม 2557 ค่าน้ำประปาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 100 บาท
           ดิฉันคาดว่าในเดือนถัดไปค่าน้ำประปาน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราการใช้น้ำประปาน่าจะเพิ่มขึ้นเพราะอยู่ในช่วงอากาศร้อน












"ศิลปินที่ทำชื่อเสียงเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม4"


อาจารย์โกศล พิณกุล 



เกิด 12 กรกฎาคม 2486 ที่ นครศรีธรรมราช

การศึกษา ปมช. โรงเรียนเพาะช่าง

ปริญญาโท (ทัศนศิลป์ศิลปะสมัยใหม่) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

การสอน

- สอนที่วิทยาเขตโชติเวช

- สอนบุคคลภายนอกสีน้ำสถาบันราชภัฎสวนดุสิต

- สอนสีน้ำ สีน้ำมัน แก่บุคคลทั่วไป ทั้งคนไทยและต่างชาติ จนถึงปัจจุบัน รวม 14 ปี

- อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

- อาจารย์พิเศษ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

- สำนักส่งเสริมการฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 




"ศิลปินที่ทำชื่อเสียงเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม3"

อดิศร พรศิริกาญจน์


การศึกษา:
- ก.ศ.ม.(ศิลปศึกษา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ก.ศ.บ.(ศิลปศึกษา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ


เกียรติประวัติและการแสดงผลงาน:
  2551 - ร่วมแสดงงาน  “Images of Siam”   Royal Thai Embassy London, United Kingdom
  2550 - ร่วมแสดงงาน “Exotic Thai Extravaganza” 
             เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
  2549 - ร่วมแสดงงาน “POH-CHANG Artists For Elephants” The Queen’s Gallery
                ผลงานร่วมแสดง:
                          1.  Blooming     
                          2.  ราชพฤกษ์    
     

    

"ศิลปินที่ทำชื่อเสียงเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม2"

ศิริกุล ปัตตะโชติ


คุณศิริกุล หรือคุณเก๋ จบการศึกษาคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และย้ายติดตามสามีมาอยู่นครนิวยอร์คเมื่อสามปีมาแล้ว ปัจจุบัน คุณศิริกุลเป็นสมาชิกกลุ่ม Thai Artists Alliance หรือ TAA ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินไทยในนครนิวยอร์ค

คุณศิริกุลอธิบายถึงภาพเขียนของเธอ ซึ่งนำประสบการณ์รอบตัวและหลักธรรมะมาผสมผสานกันเป็นภาพลายเส้นและภาพสีน้ำ และพูดถึงแรงบันดาลใจให้สร้างสรรค์ผลงานชุด Concrete Memories
     แม้อันที่จริงเก๋มีอาชีพหลักเป็นมัณฑนากร และเรียนจบจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ในขณะเดียวกันก็รักการวาดภาพมาก 
ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
     
       
เริ่มเรียนพื้นฐานการวาดภาพตอนเรียนชั้นมัธยม ที่แผนกศิลป์ ของโรงเรียนสายน้ำผึ้ง แล้วฝึกฝนด้วยตัวเองมาโดยตลอด ส่วนตัวจะชอบการเขียนลายเส้น และวาดภาพสีน้ำเป็นพิเศษ 
       
ช่วงที่อยู่ประเทศไทย เก๋ชอบวาดภาพเพื่อบันทึกความประทับใจ ที่ส่วนใหญ่จะมาจากการเดินทาง และความชอบในธรรมชาติ และดอกไม้
      

 
     กระทั่งเรียนจบและทำงานอยู่ระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นความรักได้พัดพาให้เธอต้องจากเมืองไทยเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์กกับคนรักซึ่งมีอาชีพเป็น Art Program Director ผู้วางโปรแกรม โครงการงานศิลปะที่จัดแสดงภายนอกสถานที่ ให้กับ องค์กรเพื่อชุมชน ที่เรียกว่า Lower East Side ของนิวยอร์ก และผู้ร่วมก่อตั้ง The Lodge Gallery



"ศิลปินที่ทำชื่อเสียงเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม1"

  นายสมบัติ แก้วทิพย์

อายุ : 46 ปี
ที่อยู่ : 10/1 บ้านดอนตัน ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน 55000 
โทร. 01 961 4343
การศึกษา : ปริญญาตรีด้านศิลปกรรม มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน
การทำงาน : ศิลปินอิสระ และ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เกียรติประวัติ :
  • ปี 2538 รางวัลเพลงยอดเยี่ยม "สีสันอวอร์ต" ประเภทสื่อเนื้อหาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • ปี 2540 รางวัลเพลงบรรเลงยอดเยี่ยม "สีสันอวอร์ต" ประเภทเนื้อหาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ระยะเวลาทำงานด้านอนุรักษ์สิงแวดล้อม : 13 ปี (ปี 2535-ปัจจุบัน)
ผลงาน :
  • จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการงานรณรงค์ปลูกจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมโลกภูสันตะวันลับฟ้า
  • ทำโครงการฟื้นฟูป่า และร่วมจัดตั้งชมรมฟื้นฟูป่าภูหลง
  • ทำกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิตชุมชน และจัดค่ายเยาวชน
  • ขับเคลื่อนด้านงานเพลงเพื่อสร้างสำนึกสิ่งแวดล้อม
  • แสดงผลงานศิลปะเพื่อหารายได้สมทบทุนป้องกันไฟป่า

"ชนิดของวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์"


                   วัสดุในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้  มี 5 ประเภท คือ               
1. เยื่อ  และกระดาษ
        นับได้ว่าเยื่อและกระดาษนำมาใช้ทำบรรจุภัณฑ์มากที่สุด และมีแนวโน้มใช้มากยิ่งขึ้นสืบเนื่องจากการรณรงค์ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและกระดาษที่ใช้แล้ว สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย (Recycle) กระดาษเป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ประเภทเดียวที่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้จากการปลูกป่าทดแทน  นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการขนส่งจาก
ผู้ผลิตไปยังผู้ใช้เนื่องจากพับได้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์จากเยื่อ และกระดาษได้แก่ กล่องกระดาษแข็ง กล่องกระดาษลูกฟูก ถุงกระดาษ เป็นต้น


2.  พลาสติก
พลาสติกเป็นวัสดุที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก คุณประโยชน์ของพลาสติก คือ มีน้ำหนักเบาป้องกันการซึมผ่านของอากาศและก๊าซได้ระดับหนึ่งสามารถต่อต้านการทำลายของแบคทีเรียและเชื้อรา คุณสมบัติหลายอย่างที่สามารถเลือกใช้งานที่เหมาะสม พลาสติกบางชนิดยังเป็นฉนวนกันความร้อนอีกด้วย ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกได้แก่ ฟิล์มพลาสติกรัดรูป ขวด ถาด กล่อง และโฟม
พลาสติกเป็นสารสังเคราะห์จำพวกโพลิเมอร์  มีหลายชนิดและมีคุณสมบัติที่  แตกต่างกันออกไป เช่นกันการซึมของน้ำ อากาศ ไขมัน ทนต่อความเย็น และความร้อน ทนต่อกรด หรือด่าง ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า และความร้อน มีลักษณะอ่อนและแข็ง และมีหลายรูปทรง

3.      แก้ว     
นับเป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีความเฉื่อยต่อการทำปฏิกิริยา กับสารเคมีชีวภาพเมื่อเทียบกับวัสดุบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆ และยังรักษาคุณภาพภายในได้ดีมาก ข้อดีของแก้วคือ ความใสและทำเป็นสีต่าง ๆ ได้สามารถทนแรงกดได้สูง  แต่เปราะแตกง่ายในกระบวนการบรรจุสามารถบรรจุได้ด้วยความเร็วสูงในด้านสิ่งแวดล้อม แก้วสามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้ง    อาจจะถึง 100 ครั้งและสามารถนำมาหลอมใช้ใหม่ได้ง่าย (Recycle) สิ่งที่พึงระวังในเรื่องการบรรจุคือ ฝาขวดแก้วจะต้องเลือกใช้ฝาที่ได้ขนาดและต้องสามารถปิดได้สนิทแน่น        เพื่อช่วยรักษาคุณภาพและยืดอายุของสินค้า  


  4. โลหะ                                                              
โลหะที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ มี  2  ชนิด คือ
                        4.1 เหล็กเคลือบดีบุก  เป็นบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง   ป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดล้อม  และสภาวะอากาศ การลงทุนในการผลิตไม่สูงนักและไม่ซับซ้อนสามารถบรรจุอาหารได้ดีเนื่องจากสามารถปิดผนึกได้สนิทและฆ่าเชื้อได้ด้วยความร้อน ในแง่ของสิ่งแวดล้อมสามารถแยกออกจากขยะได้ง่ายโดยใช้แม่เหล็ก
 4.2 อลูมิเนียม มักใช้ในรูปอลูมิเนียมเปลว   หรือกระป๋องมีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับความแข็งแรง ทนต่อการซึมผ่านของอากาศ ก๊าซ แสง และกลิ่นรสได้ดีเยี่ยม ในรูปของอลูมิเนียมเปลวมักใช้ควบกับวัสดุอื่นซึ่งให้ภาพลักษณ์ที่ดีเนื่องจากความเงาวับของอลูมิเนียม
                     ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์จากโลหะได้แก่ กระป๋อง  ปี๊บ  ถัง  และแผ่นเปลว อลูมิเนียม

5.ไม้
เป็นวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ที่น้อยมาก เพราะเกิดการรณรงค์เรื่องตัดไม้ทำลายป่าและนับวันจะมีการใช้น้อยลงมากเพราะสามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนไม้ได้ แต่ที่พบเห็นอยู่บ้างได้แก่ ลังไม้ เข่ง ตะกร้า เป็นต้น